วัสดุปลูกโรสแมรี่และสมุนไพรฝรั่งสำเร็จรูปเกรดพรีเมียม
วัสดุปลูกโรสแมรี่และสมุนไพรฝรั่งสำเร็จรูปเกรดพรีเมียมจากฟาร์มสุข ประกอบด้วยอินทรีย์วัตถุที่มีคุณภาพสูง มีความโปร่ง ระบายน้ำได้ดี และสามารถกักเก็บความชื้นไว้ได้อย่างเหมาะสม เสมือนฟองน้ำที่ดูดซับน้ำและแร่ธาตุต่างๆ ไว้ได้ดี และค่อยๆ ปลดปล่อยธาตุอาหารให้กับต้นพันธุ์อย่างช้าๆ ทำให้ประหยัดปุ๋ย และต้นพันธุ์ได้นำไปใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างเต็มประสิทธิผล อีกทั้งยังมีส่วนผสมที่ช่วยป้องกันเชื้อราสาเหตุของการเกิดโรค
ดังนั้น เมื่อนำไปใช้ปลูกไม่ว่าจะปลูกในกระถาง หรือลงดิน จะทำให้มีความโปร่ง ร่วนซุย นํ้าและอากาศไหลเวียนถ่ายเทได้ดี ระบบรากเติบโตดี ชอนไชหาอาหารได้ง่ายและไกลขึ้น ยิ่งถ้าใช้คู่กันกับน้ำหมักของฟาร์มสุข ต้นพันธุ์จะโตไว แข็งแรง มีภูมิต้านทานโรค ช่วยทำให้การดูแลง่ายขึ้นด้วยค่ะ
—-
14 ขั้นตอนง่ายๆ ปลูกสมุนไพรฝรั่ง ยังไงก็งาม
1.) เลือกวัสดุปลูก (วัสดุปลูกสำเร็จรูปของฟาร์มสุข) และขนาดของกระถางให้เหมาะสม
2.) หากได้รับต้นพันธุ์มาใหม่ เพื่อให้ต้นพักฟื้นจากการเดินทาง ควรพักต้นพันธุ์ไว้ในที่ร่มรำไร ประมาณ 2-3 วัน โดยไม่ควรวางต้นพันธุ์ตรงจุดที่ได้รับแสงแดดแรงๆ และไม่ควรวางต้นพันธุ์ตากฝน/น้ำค้าง
***(หากสังเกตว่าวัสดุปลูกที่ติดถุง/กระถางมาแห้ง และต้นพันธุ์มีอาการเหี่ยวเฉา อาจรดน้ำช่วงเช้า ครั้งละน้อยๆ เพิ่มได้ แต่ไม่ควรรดน้ำลงไปจนชุ่มมากนัก เพราะอาจทำให้ความชื้นสูงเกินไปและอาจทำให้รากเน่าได้)
3.) เมื่อจะเปลี่ยนวัสดุปลูกใหม่ เป็นวัสดุปลูกของฟาร์มสุข แนะนำให้เทวัสดุปลูกในถุง ลงในภาชนะ เช่น กะละมัง แล้วเติมน้ำลงไป และทำการขยำให้วัสดุปลูกชุ่ม อมน้ำจนทั่วกัน
4.) นำวัสดุปลูกที่ชุ่มน้ำแล้ว ใส่ลงในกระถางประมาณครึ่งกระถาง โดยไม่ต้องรองก้นกระถางด้วยวัสดุอื่นๆ อีก
5.) สางเอาวัสดุปลูกเก่าที่ติดตุ้มในถุง/กระถางเดิมมา ออกบางส่วน โดยให้สางตรงบริเวณด้านล่างเพื่อสางเอารากที่ขดอยู่ออกบ้าง ***(ควรทำอย่างเบามือ และระมัดระวังอย่าให้รากขาดมากนะคะ)
6.) วางต้นสมุนไพรที่สางเอาวัสดุปลูกเก่าออกบางส่วนแล้วลงไปในกระถางที่เตรียมวัสดุปลูกของทางฟาร์มไว้ ในข้อ 4.)
7.) เติมวัสดุปลูกของทางฟาร์มที่ชุ่มน้ำที่เหลือลงไปให้ถึงบริเวณขอบกระถาง แล้วเอามือกดรอบๆ ขอบกระถางให้วัสดุปลูกที่เติมลงไปแน่นกระชับกับราก ***(ไม่ควรกดบริเวณใกล้โคนต้น เพราะอาจไปทำให้รากช้ำหรือขาด)
จากนั้นรดน้ำให้ชุ่มอีกครั้ง จนสังเกตเห็นว่าน้ำไหลออกทางก้นกระถาง โดยรดลงที่โคนต้น งดรดน้ำโดนใบ
8.) ช่วงหลังจากที่เปลี่ยนวัสดุปลูกใหม่ ควรวางกระถางในที่ร่มรำไร มีแสงส่องถึง แต่ไม่ร้อนจัด และมีอากาศถ่ายเท ไม่ร้อนอบอ้าว ***และไม่ควรวางกระถางตรงจุดที่จะโดนลมโดยตรง พักไว้ประมาณ 7-14 วันโดยไม่เคลื่อนย้ายบ่อยๆ ช่วงนี้อาจฉีดพ่นสารป้องกันและกำจัดเชื้อราทางใบ คุมไว้ทุกๆ 7 วันค่ะ
9.) วันรุ่งขึ้น หากตรวจเช็คดูว่าวัสดุปลูกในกระถางยังชื้นอยู่ และต้นยังสดชื่นดี อาจจะงดรดน้ำไปก่อนได้ค่ะ
***(ในช่วงหลังเปลี่ยนวัสดุปลูก หากมีฝนตก ให้เก็บกระถางหลบฝน ไม่ควรตั้งกระถางตากฝน หรือน้ำค้าง และควรฉีดพ่นสารป้องกันและกำจัดเชื้อราคุมไว้ด้วยจะดีค่ะ หากสนใจสารป้องกันและกำจัดเชื้อรา สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ค่ะ)
10.) หลังจากที่ต้นฟื้นตัว สดชื่นดีแล้ว อาจยกกระถางออกมาวางตรงจุดที่ได้รับแสงแดดรำไร หรือแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้า และเมื่อต้นสดชื่น แข็งแรงแล้ว จึงค่อยย้ายกระถางไปวางตรงจุดที่ได้รับแสงแดดเต็มวันค่ะ
***หลังจากนี้ควรรดน้ำแต่พอดี โดยลองเอานิ้วจิ้มลงไปในวัสดุปลูกลึกประมาณ 2 ข้อนิ้ว หากถ้าวัสดุปลูกยังชื้น หรือ มีอากาศคล้ายจะมีฝนตก หรือ ต้นยังไม่เหี่ยวเฉา อาจจะยังไม่ต้องรดน้ำก็ได้ค่ะ แต่ถ้าหากวัสดุปลูกแห้งหรือเปลี่ยนสีจากสีน้ำตาลเข้ม เป็นสีน้ำตาลอ่อน จึงค่อยรดน้ำอีกครั้ง
11.) เมื่อสังเกตว่าต้นพันธุ์สดชื่นดีแล้ว อาจเริ่มฉีดพ่นน้ำหมักอาหารพืชของฟาร์มสุข ทางใบ ทุกๆ 7 วัน และเว้นไปอีกประมาณ 2-3 วัน อาจเริ่มให้รวมอินทรีย์วัตถุทางราก ประมาณ 5-10 เม็ด ต่อกระถาง 12 นิ้ว หรือ 10-20 เม็ด ต่อกระถาง 15-17 นิ้ว โดยโรยรอบๆ ขอบกระถางทุกๆ 7-10 วัน หรือเมื่อเห็นว่าละลายหมด และอาจเสริมปุ๋ยเคมีให้บ้างครั้งละน้อยๆ ประมาณเดือนละครั้ง
***(รวมอินทรีย์วัตถุ/ปุ๋ยเคมี ที่ให้ทางราก ควรให้คนละวันกับวันที่ฉีดพ่นน้ำหมักของฟาร์มสุขทางใบ โดยให้ห่างกันประมาณ 2-3 วัน เช่น ทุกวันเสาร์ ฉีดพ่นน้ำหมักทางใบ และทุกวันอังคาร ให้รวมอินทรีย์วัตถุทางราก)
12.) ถ้าพบการระบาดของเพลี้ยไฟ ไรแดง หรือ เชื้อรา อาจป้องกัน/ควบคุมโรคด้วยการใช้สารกำจัดชีวภาพหรือเคมีตามความเหมาะสม
***(รายละเอียดสารป้องกันและกำจัดโรคต่างๆ สอบถามเพิ่มเติมได้ค่ะ)
13.) พอระยะเวลาผ่านไป วัสดุปลูกในกระถางจะค่อยๆ ย่อยสลายและพร่องลง หากใช้วัสดุปลูกมายังไม่ถึง 1 ปี สามารถเติมวัสดุปลูกใหม่เพิ่มตามความเหมาะสม
14.) หากมีการเปลี่ยนขนาดของกระถาง หรือเปลี่ยนใช้วัสดุปลูกมาแล้ว 1 ปี ให้เปลี่ยนวัสดุปลูกใหม่ทุกครั้ง
—
***หมายเหตุ***
1.) หากใช้วัสดุปลูกสำเร็จรูปของฟาร์มสุข ไม่ควรนำไปผสมวัสดุอื่นๆ เพิ่มเติม เพราะอาจทำให้สัดส่วนของส่วนผสมคลาดเคลื่อนและค่า Ph เปลี่ยน
2.) ในช่วงเปลี่ยนวัสดุปลูกใหม่ หรือช่วงที่ต้นยังไม่ฟื้นตัว ไม่ควรให้ปุ๋ยทางราก และไม่ควรฉีดพ่นน้ำหมักทางใบค่ะ
3.) ในช่วง 7-14 วันแรก หลังเปลี่ยนวัสดุปลูกใหม่ หรือช่วงที่ต้นพันธุ์ยังไม่ฟื้นตัว ไม่ควรให้ปุ๋ยทั้งทางรากและทางใบ
4.) วัสดุปลูกและน้ำหมักของฟาร์มสุข ใช้ปลูกและฉีดพ่นไม้ดอกอื่นๆ หรือพืชผักสวนครัว หรือพืชสมุนไพรฝรั่ง/ไทยต่างๆ รวมถึงไม้ผลที่ติดดอกก่อนออกผลทุกชนิดเลยนะคะ
5.) หากปลูกในกระถางจะไม่แนะนำให้พรวนวัสดุปลูก เพราะอาจจะทำให้ระบบรากที่ผิวหน้าวัสดุปลูกในกระถางขาดเสียหายได้ค่ะ